Monday, April 20, 2009

โขงเจียม มนต์เสน่ห์แห่งแม่โขง the Mekong River

the history of Thailand , the nature travels,tour in thailand ,thailand,entertainment,hotel in thailand,thai shoping,thai secret

in Thailand has many important river and significant very much in Thailand. for Bangkok is the Chow Phya River the north is 4 rivers important is ping worn yom nan the Northeast is unless a river important late type a river is chei a river is mon for " , the Mekong River is " no flow reach Thailand directly but be a river in the northeast where the people thinks of " the Mekong River"
Image Hosted by Upload.TARAD.com
ในประเทศของเรามีแม่น้ำสำคัญอยู่หลายสาย
ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในประเทศกสิกรรมแบบไทย
ใกล้คนกรุงเทพฯก็ต้องเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นเหนือก็เป็น ปิง วัง ยม น่าน
เป็นต้นและหากในสายอีสานนอกจากแม่น้ำสายดังอย่าง ชี มูล แล้ว "แม่น้ำโขง"
ที่แม้ไม่ได้ไหลผ่านเข้ามาในประเทศไทย
ก็เป็นแม่น้ำในอันดับต้นๆในภาคอีสานที่ผู้คนนึกถึง


"แม่น้ำโขง" แม่น้ำที่มีถิ่นกำเนิดจากบริเวณที่ราบสูงธิเบตในประเทศจีน ก่อนจะไหลสู่พื้นที่ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนามเป็นระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร

ในส่วนของประเทศไทย มีช่วงที่แม่น้ำโขงไหลเลาะตะเข็บชายแดนอยู่เป็นระยะทางยาว 850 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นสองช่วง คือในพื้นที่ จ.เชียงราย เหนือสุดในสยาม และลงมาที่ 6 จังหวัดของภาคอีสาน ได้แก่ เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีและ ณ จุดสุดท้ายของสายน้ำโขงในแดนสยาม ที่จังหวัดอุบลราชธานีนั้น แม่น้ำโขงสีปูนได้ไหลบรรจบกับแม่น้ำมูลสีครามที่ กลายเป็นแม่น้ำสองสี ที่ อ."โขงเจียม" ก่อนจะไหลเลี้ยวเข้าสู่ประเทศลาวที่บ้านเวินบึกต่อไปโขงเจียม...

โขงเจียม อำเภอเล็กๆของ จ.อุบลราชธานี ที่ตั้งอยู่ด้านตะวันออกสุดของประเทศ ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง ณ ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และเป็นจุดท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและเพิ่มพูนประสบการณ์ที่คุ้มค่าของภาคอีสานและ อ.โขงเจียมเองก็เป็นพื้นที่ที่มีของดีในตัวเองมากมาย

แหล่งท่องเที่ยวในโขงเจียมมีมากมาย แต่แหล่งสำคัญที่มีความงดงาม เพราะพร้อมด้วยธรรมชาติของสายน้ำบริเวณรอบแม่น้ำโขง จะมี เกาะ แก่ง ซึ่งความสวยของมันจะแล้วแต่ช่วงฤดูกาลด้วย ในช่วงฤดูร้อน น้ำจะน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเห็นทิวทัศน์ 2 ข้างทางเป็นเกาะแก่งสวยงามยิ่งนัก พอฤดูฝน 2 ฝั่งน่านน้ำก็จะเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่ม ทั้งหน้าแล้งและหน้าฝนนี่ก็จะสามรถล่องเรือชมบรรยากาศริมฝั่งโขงได้ตามฤดูกาล

โขงเจียม มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีทั้งวัฒนธรรม ธรรมชาติ และศาสนา อย่างแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผาชะนะได ที่มีลักษณะเป็นเพิงผาที่ตั้งอยู่ปลายตะวันออกสุดของประเทศไทย เป็นจุดที่เห็นตะวันขึ้นก่อนใครในสยาม และช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีทะเลหมอกยามเช้าให้สัมผัส สวยและบรรยากาศดีมาก จึงเป็นเหมือนมนต์เสน่ห์จนไม่อยากกลับเลยทีเดียว

Image Hosted by Upload.TARAD.com


นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถไปกางเต็นท์นอนชมดาวยามค่ำคืนที่ผาแต้ม
หรือดูศิลปะภาพเขียนสีโบราณที่ผาแต้ม
ในอุทยานแห่งชาติผาแต้มเองยังมีความงดงามที่เป็นเอกอุอีกมากมาย อาทิ
น้ำตกสร้อยสวรรค์ เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
มีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกเต็มไปด้วยดอกไม้ป่านานาพรรณ
เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ ห้วยสร้อยและห้วยสะหนม ไหลจากหน้าผาคนละด้านมาบรรจบกัน

ห้วยสะหนม ไหลจากหน้าผาตัดชัน 90 องศา สุงราว 50-60 เมตร ส่วนห้วยสร้อยไหลจากทางทิศใต้ แล้วเทลาดลงมาตามช่องเขาที่เป็นหน้าผากว้างราว 30 เมตร มี 2 ชั้น โดยน้ำจะไหลมารวมกันตอนปลาย (มองดูคล้ายสายสร้อย) ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง

อีกอันที่กลายเป็น UNSEEN IN THAILAND ไปแล้วอย่าง น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู Image Hosted by Upload.TARAD.comเป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยท่าล้ง ไหลไปตามพลาญหินทราย และไหลลอดผ่านหน้าผาที่มีลักษณะเป็นรูขนาดใหญ่ อันเกิดจากแรงกัดเซาะของสายน้ำ บ้างก็เรียกว่า "น้ำตกลงรู" สายน้ำที่ไหลรอดรูตกลงเป็นละอองขาวนวล มองดูคล้ายแสงจันทร์สาดส่องลงมาสู่พื้นโลก


และถ้าคุณอยากจะชอปปิ้งก็สามารถเดินทางไปที่ช่องเม็ก
ชายแดนที่เป็นอาณาเขตติดต่อระหว่างไทยกับลาว ซึ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่มีร้านขายสินค้านำเข้า และหัตถกรรมจากชาวบ้านอีกด้วยเลียบริมโขงจากเหนือจรดใต้ความงามอันอาจจะเรียกได้ว่าครบทุกองค์รวมของธรรมชาติทั้งขุนเขาและสายน้ำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากที่นี่จะมีจำนวนผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นทุกปีๆ

Image Hosted by Upload.TARAD.com
โขงเจียม เริ่มเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มตัวเมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2535
เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในโขงเจียม ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในปี 2550 เปรียบเทียบกับปี 2551 ในปี
2551 มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นประมาณ 70-80% และหากถามว่าโขงเจียมสวยสุดในฤดูใด ก็คงต้องเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว
โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมพิธีต่อแสงตะวันบนลานผาแต้ม และชมงานไหลโคมล่องโขงที่โขงเจียม ในค่ำคืนวันส่งท้ายปีเก่าและพร้อมรับแสงแรกของตะวันก่อนใครในสยามที่โขงเจียม
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกช้างน้าวหรือดอกเหมยในอุทยานแห่งชาติผาแต้มจะบานรับเทศกาลตรุษจีน

สำหรับคนที่สนใจการท่องเที่ยวในโขงเจียม แนะนำว่าควรเที่ยวบนเส้นทางท่องเที่ยวเลียบแม่น้ำโขง จากใต้-เหนือโดยทางด้านใต้ สามารถแวะเยือน ชมรมอนุรักษ์ม้าพันธุ์พื้นเมืองฯ ที่บ้านหนองชาด ชมเขื่อนปากมูล แวะศึกษาศิลาจารึกพระเจ้าจิตรเสนรอยอารยะธรรมขอมโบราณยุคเจนละ(เจินละ)บริเวณข้างตัวเขื่อน
หรือชมความยิ่งใหญ่ของอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ แก่งหินกว้างกลางลำน้ำมูลImage Hosted by Upload.TARAD.comชมดอนตะนะ
ศึกษาธรรมชาติริมแม่น้ำมูล เยือนเขื่อนสิรินธรแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ชมทัศนียภาพทะเลสาบเหนือเขื่อน ส่วนเส้นทางท่องเที่ยวเลียบแม่น้ำโขง
ทางด้านเหนือของเมืองโขงเจียม นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยว ชมเสาเฉลียงคู่ อันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ สายลม แสงแดด ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี
มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้นมีส่วนบนเป็นแผ่นหินวางไม่ติดกันมองดูคล้ายดอกเห็ด ตั้งคู่กันบนเนินหินทรายตรงเนินเสาเฉลียงคู่นี้ยังเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดของดงนาทามอีกด้วย

ส่วนใครเป็นนักผจญภัยก็ต้องมาที่ ป่าดงนาทาม แหล่งเดินป่า แค้มป์ปิ้ง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายฝนต้นหนาวของอีสานใต้ มีลักษณะเป็นผืนป่าตะวันออกสุดของประเทศไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน ติดกับแม่น้ำโขง มีหน้าผาสูงชัน ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีดอกไม้ป่าบานสะพรั่งเต็มลานหิน เช่น หยาดน้ำค้าง แดงอุบล เอ็นอ้า ดุสิตา สรัสจันทร สร้อยสุวรรณา มณีเทวา ทิพเกสร ฯลฯ และพืชกินแมลงจำพวกหม้อข้าวหม้อแกงลิง ขึ้นอยู่ทั่วไปตามชายป่าและลำห้วย

"โขงเจียมเป็นจุดไหลผ่านของแม่น้ำโขงที่มีความงดงามตามธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมาย ดังนั้นหากคิดจะก้าวเดินท่องเที่ยวตามตะวัน ก็อย่าลืมก้าวตามแสงแรกของตะวันมายังผืนดินริมโขง ที่โขงเจียม จ.อุบลราชธานีแห่งนี้"

แม้นในช่วงนี้ประเทศไทยของเราจะมีปัญหาต่างๆมากมายที่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว แต่หากเราคนไทยมีความรักและเข้าใจที่ดีต่อกันเหมือนก่อนแล้ว เราคงจะจดจำกันได้ว่า ชาติไทยของเราต้องผ่านอะไรมามากบรรพบุรุษของเราต้องสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน...ให้เราทุกคนมีวันนี้...วันที่เราทุกคนคือคนไทย รักกันไว้ดีกว่าครับเพราะที่นี่คือบ้านของเราแผ่นดินของเราอย่าทำลายเพียงเพื่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งเลย...เอ๋..มาเรื่องเครียดๆได้ไงหว่า...เอ้า...เอาเป็นว่าการท่องเที่ยวต่างชาติไม่มา เราคนไทยก็เที่ยวในเมืองไทยดีกว่า เพื่อจะได้ทำให้เศรษฐกิจของเราดีขึ้นเร็วๆ...ขอให้เที่ยวไทยกันให้สนุกนะ เพราะเมืองไทยมีดีกว่าที่คิด

Sunday, April 5, 2009

เมืองที่เขาคิดว่าจะเป็น"ปาย"แห่งที่สอง

the history of Thailand , the nature travels,tour in thailand ,thailand,entertainment,hotel in thailand,thai shoping,thai secret

เมืองที่ว่ากันว่า จะกลายเป็น
ปายแห่งที่สอง


Image Hosted by Upload.TARAD.com
อากาศร้อนเหมือนจะหยุดเวลาเมืองแห่งนี้ไว้ให้นิ่งสนิท
เปลวแดดเต้นเร่าอยู่บนผิวถนนคอนกรีตไอระอุ ถนนเส้นเลียบริมโขงแทบว่างเปล่า
นานๆ จะมีรถวิ่งผ่านสักคันหนึ่ง
บ้านเรือนที่เป็นห้องแถวไม้ส่วนใหญ่ปิดประตูเงียบเชียบ ราวกับร้างไร้ผู้คนอยู่อาศัย
แต่ที่จริงแล้วมีวิถีชีวิตดำเนินอยู่ภายใต้ความเงียบสงัดเหล่านั้น

แม้จะไม่คึกคักเท่ากับถนนเส้นบนที่เป็นฝั่งตลาเศรษฐกิจของเมือง แต่บ้านเรือนฝั่งติดริมแม่น้ำโขงนี้เคยเป็นศูนย์กลางความรุ่งเรืองของเชียงคานในยุคหนึ่ง ยุคที่ผู้คนสองฝั่งโขงข้ามฟากไปมาหาสู่กันได้โดยอิสระ


เชียงคานสถานที่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่เป็นแหล่งซื้อขายฝ้ายขนาดใหญ่
รวมทั้งสินค้าจำเป็นอย่างเช่นน้ำมันเชื้อเพลิงในอดีตระหว่างลาวกับไทย


ความรุ่งเรืองนั้นยังหลงเหลือตกทอดมาถึงปัจจุบัน ตึกแถวไม้ใหญ่น้อยที่เรียงรายตลอดสองฟากถนน แสดงให้เห็นว่ายุคหนึ่ง เศรษฐกิจที่นี่เคยรุ่งเรืองปานใดแม้ทุกวันนี้เรือนแถวไม้เหล่านั้นจะถูกปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำการค้าคึกคักอย่างสมัยก่อน แต่บางห้องเริ่มมีการปรับปรุงเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงคานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงระยะปีหลังมานี้ ที่ชื่อของเชียงคานเริ่มหอมหวนขึ้นมาในหมู่นักเดินทางคนไทยว่า
ที่นี่จะเป็น"ปาย"แห่งที่สอง

แต่ไม่มีใครอยากให้เชียงคาน เป็นเหมือน"ปาย"


Image Hosted by Upload.TARAD.com
หลังจากชื่อของ 'ปาย' กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวฮิตติดลมบนไปเมื่อหลายปีก่อน เชียงคานกำลังเจริญรอยตามปายมาติดๆ ทั้งจุดเริ่มจากเป็นเมืองฮิตของ Lonely Planet และบรรดาเหล่าแบ็คแพคเกอร์ จากนั้นก็ตามมาด้วยนักเดินทางชาวไทยที่รักความสงบ ช่างภาพ ศิลปิน นักเขียน และคนทำงานศิลปะแขนงต่างๆ เป็นหัวหอกที่เข้ามาท่องเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศกลุ่มแรกๆ ไปจนถึงอยู่ตั้งรกรากที่นั่นImage Hosted by Upload.TARAD.com



เมื่อเริ่มมีกระแสคนไทยมาเที่ยวเชียงคาน ทำให้เมืองเล็กๆ
ชายโขงแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขึ้น ทางด้านคนเชียงคานเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการรวมกลุ่มพูดคุยกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เรื่องการออกกฎควบคุมอาคารสูง การทาสีอาคารบ้านเรือน และการใช้พื้นที่ถนนริมเขื่อนสาธารณะที่ติดแม่น้ำโขง เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวมาทำให้บ้านเกิดของพวกเขาเปลี่ยนไปจนไม่หลงเหลือเสน่ห์แบบธรรมชาติบริสุทธิ์ เช่นที่เมืองท่องเที่ยวอย่างปายประสบมาก่อน


ความงดงามในแบบธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิม กำลังจะเลือนหายไปจากปาย...แต่ที่เชียงคาน
หลายคนมองเห็นปัญหาและได้คิดหาแนวทางแก้ไข ธรรมชาติวัฒนธรรม รายได้ ความเจริญ
มันจะต้องเดินควบคู่กันและต้องไม่ทำลายกัน