Thursday, January 28, 2010

โลกใต้ทะเล หมู่เกาะอาดัง-ราวี

the history of Thailand , the nature travels,tour in thailand ,thailand,entertainment,hotel in thailand,thai shoping,thai secret

โลกใต้ทะเล หมู่เกาะอาดัง-ราวี

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสตูล แบ่งเป็นสองหมู่เกาะใหญ่
คือ หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี ซึ่งในบริเวณนี้ยังประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ
อีกหลายเกาะ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะหินงาม เกาะยาง เกาะดง เกาะไม้ไผ่ เกาะหินซ้อน
เป็นต้น
โลกใต้ทะเลบริเวณโดยรอบนี้มีความหลากหลายของสัตว์ทะเลที่นักดำน้ำอาจพบเห็นได้อย่างปลากระเบนราหู
ปลาไหลมอเรย์ ปลาสิงโต ปลาหมึก ดาวขนนก ทั้งยังมีปะการังแข็งและประการังอ่อน
อยู่หลายจุดซึ่งเหมาะแก่การดำน้ำทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก อาทิ


thai holiday


กองหินจาบังหรือร่องน้ำจาบัง อยู่ระหว่างเกาะอาดังและเกาะราวี
กองหินใต้น้ำ 5 จุดนี้ปกคลุมไปด้วยปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีแดง
สีน้ำตาลไล่น้ำหนักอ่อนแก่อย่างสวยงาม ซึ่งมีระดับความลึกไม่มากนัก
เหมาะสำหรับการดำน้ำลึกและการดำน้ำตื้น


เกาะดง เกาะหินซ้อน ตั้งอยู่ใกล้เกาะราวี
มีก้อนหินรูปทรงสี่เหลี่ยมซ้อนกันอันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้
บริเวณรอบเกาะมีจุดดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของปะการังอ่อนและปะการังแข็งใต้ท้องทะเลรอบเกาะได้อีกด้วย



เกาะยาง
อยู่ใกล้กับเกาะหินงามบริเวณโดยรอบเกาะมีปะการังแข็งอย่างปะการังเขากวาง
ปะการังผักกาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น


เกาะหินงาม นอกจากจะได้ชมความงามของก้อนหินกลมมนบนเกาะแล้ว
บริเวณด้านหลังเกาะหินงามยังมีแนวปะการัง ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน
น้ำใสเหมาะแก่การดำน้ำตื้น



เกาะราวี สำหรับผู้ที่ชอบการเล่นน้ำ
มีหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวอยู่ด้านหน้าเกาะ น้ำใส เงียบสงบ
ด้านหน้าหาดมีแนวปะการังแข็ง ดอกไม้ทะเล เป็นแนวยาวขนานไปกับชายหาด
เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น บนเกาะมีร้านอาหารสวัสดิการของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ


เกาะผึ้ง เกาะเล็ก ๆ อยู่ระหว่างเกาะราวีและเกาะดง
มีกัลปังหาและปะการังแข็งอยู่บริเวณใกล้ร่องน้ำ เหมาะสำหรับดำน้ำตื้น


เกาะหินขาว
เป็นจุดดำน้ำตื้นอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เกาะหลีเป๊ะ มีปะการังอ่อน ปะการังแข็ง
และฝูงปลาเป็นจำนวนมาก


นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำอีกกว่า 20
จุดที่น่าสนใจบริเวณโดยรอบเกาะอาดัง-ราวี อาทิ เกาะกระ เกาะลิง เกาะรอกลอย
ความงดงามของโลกใต้ทะเลนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและระดับน้ำขึ้นน้ำลงซึ่งควรตรวจสอบล่วงหน้า
ฤดูกาลที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวบริเวณอุทยานแห่งชาติตะรุเตาคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อทัวร์ดำน้ำได้ที่ผู้ประกอบการบนเกาะหลีเป๊ะ

ข้อมูลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Friday, May 15, 2009

ท่องเที่ยวดูนก travel see a bird from the nature

the history of Thailand , the nature travels,tour in thailand ,thailand,entertainment,hotel in thailand,thai shoping,thai secret


นั่งมองท้องฟ้าที่บ้าน(โชคดีที่บ้านยังมีพื้นที่ว่างๆให้มองเห็นท้องฟ้า) ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกในบริเวณบ้าน ได้ยินเสียงนกร้องทั้งนกกางเขนและนกกระจิบตัวเล็กๆที่บินไปมา ผมไม่ใช่นักดูนกแต่ก็ชอบธรรมชาติและสัตว์ทุกอย่าง เสียงนกร้องเพลงขับขานยามหลังฝนตก ช่างเป็นเสียงที่ฟังแล้วเพลินใจ ได้มองเห็นนกตัวเล็กบินโผจากกิ่งไม้หนึ่งไปยังอีกกิ่งไม้หนึ่ง ฮื่ม...นี่สิธรรมชาติที่เราคนในเมืองถวิลหา นกเป็นสัตว์ที่มีมานานหากจะพูดกันไปอาจจะต้องย้อนไปเป็นล้านปีจนถึงยุคของไดโนเสาร์ มาวันนี้พื้นที่อาศัยของนกลดลงจนน่าใจหาย นกเป็นสัตว์ที่สวยงามและแน่นอนมันเป็นสัตว์ที่อยู่ในวัฏจักรห่วงโซ่อาหารของธรรมชาติ นกมีประโยชน์ทั้งช่วยกำจัดแมลงที่เป็นศัตรูของพืชไร่ และกำจัดซากเน่าเปื่อยต่างๆ



นกเขนเทาหางแดง
โลกเป็นที่อยู่อาศัยอันสวยงามและอุดมสมบรูณ์ของชีวิต มนุษย์ พืชและสัตว์
หากปราศจากสิ่งหนึ่งสิ่งใดในสามสิ่งนี้ อีกสองสิ่งที่เหลือก็ไม่สามารถจะอยู่ได้ แต่ในปัจจุบันนี้ธรรมชาติของโลกกำลังถูกทำลายด้วยความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ สัตว์หลายชนิดสูญพันธ์ พื้นที่ป่าถูกทำลายและยังคงเดินหน้าทำลายต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่การทำลายเผ่าพันธุ์เพื่อร่วมโลกของมนุษย์ยังคงเดินหน้า เราจะหาทางอย่างไรเพื่อบอกให้เขารู้ว่าโลกมีพื้นที่และทรัพยากรจำกัด และบอกเขาอย่างไรว่าธรรมชาติต้องมีองค์ประกอบทั้งสามส่วนอย่างสมดุลกัน



เพื่อการคงอยู่การอนุรักษ์ การเรียนรู้เรื่องนกจึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้เยาวชนชองชาติในอนาคตตระหนักถึงการสูญเสียของโลกที่กำลังเกิดขึ้น
และการเรียนรู้เรื่องนกที่ดีที่สุดนั่นคือการที่ให้เขาออกไปสัมผัสกับนกและธรรมชาติจริงๆมากกว่าการนั่งดูเพียงสารคดีอยู่ที่บ้าน อีกทั้งเมื่อเราได้ออกไปดูนกเราก็จะได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องของธรรมชาติและได้ออกกำลังกายและสูดอากาศบริสุทธิ์ไปในตัวอีกทั้งการออกไปดูนกทำให้เรามีโอกาสได้รู้จกผู้คนอีกมากมายหลากหลายอาชีพ และนี่อาจจะเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของใครบางคน



แต่หากยังมีใครบางคนสงสัยว่าทำไมเราต้องดูนกและนกมีความสำคัญอย่างไร ผมจะขออธิบายให้ฟัง นกเป็นสัตว์ตัวเล็กๆแต่มีคุณประโยชน์มากมายแม้นจะเป็นกลไกที่เล็กแต่สำคัญมากของธรรมชาติ นกบางชนิดกินแมลงเป็นอาหารจะทำให้เกิดการควบคุมจำนวนประชากรของแมลงไม่ให้มีมากจนเกินไป นกบางชนิดกินหนอนที่จะเจาะทำลายพืชไร่นั่นหมายถึงนกช่วยเราในการดูแลพืชผลการเกษตรสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดนกบางชนิดกินน้ำหวานในเกสรดอกไม้เท่ากับว่าพวกมันได้ช่วยให้พืชได้มีการขยายพันธุ์ และนกบางชนิดก็กินสัตว์ตัวโตอย่างหนูนาทำให้ไร่นาไม่เสียหาย เห็นมั้ยครับนกตัวเล็กนอกสวยงามแล้วมันยังมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเราและธรรมชาติ



แต่ก่อนจะไปดูนกเรามาเตรียมตัวกันก่อน


ก่อนออกเดินทางเราต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ๆเราจะไปดูนก และลักษณะทางภูมิศาสตร์ และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางรวมทั้งอาจจะต้องมีการขออุญาติเข้าพื้นที่ล่วงหน้าและตรวจสอบข้อมูลการพบนกในพื้นที่นั้นพร้อมทั้งศึกษาข้อมูลชนิดนก และจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการเดินทางและการดูนกให้พร้อม



การแต่งกายไปดูนกต้องเหมาะสมแต่งกายให้เหมาะสมกับการไปดูนก เราต้องเข้าใจว่าเราไปดูนก(โดยเฉพาะสาวๆ)ไม่ได้ไปเดินชอบปิ้ง ดังนั้นการแต่งกายจึงต้องเลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันเข้ากับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ไม่ฉูดฉาดปาดตา สีควรเป็นแบบธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล สีเขียว สีทา สีน้ำเงิน สีดำ และควรงดเว้นการสวมเสื้อและหมวกสีขาวหรือสีสันสดใส คิขุอะโนเนะ เพราะนกมันมีสายตาที่ดีและจะบินหนีไปเมื่อเห็นตัวประหลาดมาเดินแฟชั่นแถวบ้านของพวกมัน และนอกจากนั้นเราควรมีเสื้อกันฝน ถุงพลาสติก(ใส่ของอย่างกล้องดูนกหรือของจำเป็นอย่างอื่นและข้อสำคัญถุงพลาสติกกรุณาเอากลับมาทิ้งที่บ้านในถังขยะนะครับ อย่างทิ้งไว้เป็นภาระของธรรมชาติ)



อุปกรณ์ในการดูนก หลักๆก็คงเป็นกล้องสองตา(Binoculars)รือกล้องเทเลสโคป(Telescope)และหนังสือคู่มือดูนกและสมุดจดไว้จดรายละเอียดของนกที่เราเห็น
เช่น ลักษณะของนก สีนก จำนวน เวลา สถานที่ นอกจากนั้นก็อาจจะเป็นกล้องถ่ายภาพ
ดินสอสีหรือปากกาสำหรับคนที่อยากจะสเกตซ์ภาพนก
และก่อนออกเดินทางเราต้องตรวจอุปกรณ์ทุกชิ้นว่ามันยังปกติดีอยู่
เพราะในป่าในดอกคงไม่มีร้านสะดวกซื้อให้เรา



ข้อแนะนำในการดูนกอีกอย่างที่ผมจะขอพูดถึงคือเทคนิคการดูนกตามธรรมชาติ





  • ดูนกในเวลาเช้า เพราะนกส่วนใหญ่หากินเวลาเช้า
    จนถึงประมาณ10.00 น.และหลังจาก14.00 น.จะเป็นนกที่หากินกลางคืน


  • หยุดการเคลื่อนไหวทุกๆ5นาที
    เพื่อสำรวจดูนกรอบๆและฟังเสียงร้องเพื่อจะได้ทราบว่ารอบตัวเรามีนกกี่ตัวละเป็นนกอะไรบ้าง
    อย่าคุยแข่งกับเสียงนก เราใช้ตาดูมือจดนะครับปากเงียบไว้จะดีกว่า


  • มองหานกทุกตำแหน่งตั้งแต่บนพื้นดิน ในกอหญ้า พุ่มไม้
    ต้นไม้ตั้งแต่โคนต้นจนถึงยอดบนสุดและเลยขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วย


  • พยามส่งเสียงรบกวนนกให้น้อยที่สุด
    เพราะเราสวมบทเป็นนายพรานที่จะมาส่อง(ดู)นก ดังนั้นทำเสียงให้เกิดน้อยที่สุด
    โดยเฉพาะเสียงจากการเหยียบกิ่งไม้ใบไม้แห้ง



  • เมื่อมองเห็นนกในระยะไกลให้ส่องกล้องดูก่อนอย่างเพิ่งรีบเดินเข้าไปในระยะใกล้
    เพราะเราอาจจะทำให้นกหนีไปได้


  • ปฏิบัติตามกฏของสถานที่ ที่เราไปอย่างเคร่งครัด
    เคารพเขาแล้วเขาจะเคารพเราครับ



พูดกันมาเยอะเรื่องดูนกคราวนี้หลายคนคงอยากรู้ว่าที่ดูนกของเมืองไทยมีที่ไหนบ้าง สำหรับแหล่งดูนกของเมืองไทยนั้นมีอยู่กว่า100แห่ง และในแต่ละสถานที่ก็จะมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดูนก โดยแบ่งได้ดังนี้ครับ


เดือน พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
ตรงกับฤดูหนาว
ช่วงนี้เป็นเวลาที่ดีของปีเพราะเราจะไปดูนกที่ในแถบภาคเหนือเพราะอากาศจะเย็นสบาย
แหล่งที่นิยมดูนกได้แก่ ดอยสุเทพดอยปุย อุทยานแห่งชาติอินทนนท์
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
และนอกจากนั้นก็ยังมีทางภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันตก
เช่นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่
นกเขนหัวขาวท้ายแดงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนเรศวร
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง


เดือนมีนาคม-มิถุนายน
บริเวณที่นิยมดูนกอยู่ที่ภาคใต้และภาคตะวันตก ตั้งแต่ระนองพังงา กระบี่ นราธิวาส
สตูล และหาดใหญ่ เช่น อุทยานแห่งชาติทะเลบัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง


เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม
เป็นช่วงฤดูฝนดังนั้นการเดินทางจะค่อนข้างลำบาก
จึงมักจะดูนกในแหล่งใกล้ๆอย่างกรุงเทพก็มักจะไปดูกันที่ อำเภอกำแพงแสน
จังหวัดนครปฐม ตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เป็นต้น


หากคุณไม่มีโอกาสเดินทางไปดูนกไกลๆได้ ก็ลองมองหานกแถวๆบ้านดูสิครับ ลองมองพวกเขาอย่างและหาข้อมูลเกี่ยวกับนกมาอ่านดูแล้วคุณจะรู้สึกว่าธรรมชาติไม่ได้อยู่ไกลเราเลย เราต่างหากที่พยามวิ่งหนีธรรมชาติ



ไว้พบกันคราวหน้าครับ
Secret of Thailand